วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ไม้ประดับ มะลิ




มะลิ


ไม้พุ่มเล็ก เป็นเถาเลื้อยกิ่งอ่อน ดอกสีขาวกลีบซ้อนสวย มีกลิ่นหอม สามารถปลูกในกระถาง มะลิต้องการแดดจัดคนไทยนิยมนำมาทำพวงมาลัยไหว้พระ หรือลอยในน้ำมีกลิ่นหอมสดชื่น มะลิมีหลายพันธุ์ ได้แก่ มะลิลา, มะลิลาซ้อน, มะลิถอด, มะลิพิกุล, มะลิทะเล, มะลิพวง, มะลิเลื้อย, มะลิวัลย์, พุทธิชาติ, ปันหยี, เครือไส้ไก่, อ้อยแสนสวย และ มะลิเขี้ยวงู เป็นต้นมะลิ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Jasminum; อังกฤษ: Jasmine; อินโดนีเซีย: Melati) เป็นพรรณไม้ยืนต้น พบได้ในแถบเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลักษณะเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก จนถึงขนาดกลาง บางชนิดมีลำต้นแบบเถาเลื้อย ลำต้นมีความสูงประมาณ 1-3 เมตร ผิวเปลือกลำต้นสีขาวมีสะเก็ดรอยแตกเล็กน้อย ลำต้นเล็กกลมแตกกิ่งก้านสาขาไปรอบ ๆ ลำต้น ใบเป็นใบเดี่ยว แตกใบเรียงกันเป็นคู่ ๆ ตามก้านและกิ่งลักษณะของใบมนป้อม โคนใบสอบเรียว ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบเป็นมันสีเขียวเข้ม ใบกว้างประมาณ 2-3 เซนติเมตร และยาวประมาณ 3-5 เซนติเมตร ออกดอกเป็นช่อ ออกตามส่วนยอดหรือง่ามใบ ดอกมีขนาดเล็กสีขาว และมีกลิ่นหอม ดอกมีกลีบดอกประมาณ 6-8 กลีบ เรียงกันเป็นวงกลมหรือซ้อนกันเป็นชั้นแล้วแต่ชนิดพันธุ์ ขนาดดอกบานเต็มที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-3 เซนติเมตร ผลเป็นรูปกลมรีเล็กเมื่อสุกจะมีสีดำภายในมีเมล็ดอยู่ 1 เมล็ด นอกจากนี้ลักษณะของลำต้นและดอกแตกต่างกันไปตามชนิดพันธุ์[4]

ไม้ประดับ พุดตะเเคง




พุดตะแคง
ไม้พุ่มเตี้ย ดอกสวยมีกลิ่นหอมดอกจะมีสีขาวและจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเมื่อเวลาผ่านไป จะมีกลิ่นหอมตอนกลางคืน ชอบแดดออกดอกตลอดทั้งปี ปลูกง่ายใบเรียบเกลี้ยงสีเขียวเข้ม ทรงใบมนปลายใบแหลม ยาว 6-7 ซม. ดอกออกเป็นช่อคล้ายดอกมะลิมีกลีบดอก 5 กลีบ เมื่อบานใหม่ ๆ ดอกมีสีเหลืองนวล พอบานเต็มที่จะเป็นสีขาว กลีบดอกจะบิดงอตะแคงตามกันเหมือนกังหัน ขนาดดอกกว้าง 3 ซม. มีกลิ่นหอมแรงมาก และออกดอกตลอดปี แต่จะออกมากในฤดูฝน เป็นไม้กลางแจ้งดินที่ปลูกควรเป็นดินร่วนซุย มีธาตุอาหารสมบูรณ์ สามารถเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ขยายพันธุ์ด้วยการ ตอนและ ปักชำพุดตะแคง (อังกฤษ: Lady of the night) เป็นไม้พุ่มยืนต้นเตี้ย ๆ สูงประมาณ 8 ฟุต ดอกออกเป็นช่อคล้ายดอกมะลิมีกลีบดอก 5 กลีบ เมื่อบานใหม่ ๆ ดอกมีสีเหลืองนวล พอบานเต็มที่จะเป็นสีขาว กลีบดอกจะบิดงอตะแคงตามกันเหมือนกังหัน ขนาดดอกกว้าง 3 ซม. มีกลิ่นหอมแรงมาก และออกดอกตลอดปี แต่จะออกมากในฤดูฝน

ไม้ประดับ ชมนาค






ชมนาด

ชมนาดเป็นไม้เลื้อยไปได้ไกล และส่งกลิ่นหอมไปไกลที่เหมาะมาปลูกไว้ในบ้านเพราะส่งกลิ่นหอมสดชื่น ดอกสีขายเป็นช่อสวยงามใช้อบน้ำทำข้าวแช่ต้น เป็นไม้เลื้อยเนื้อแข็งขนาดกลาง เถาสีเทาสามารถเลื้อยไปได้ไกลทุกส่วนของต้นมีน้ำยางสีขาว เปลือกต้นมีร่องแตกทั่วไป
ใบ เป็นใบเดี่ยวเกิดตรงกันข้าม รูปไข่แกมรี ขอบใบเรียบ ปลายแหลม โคนมนใบสีเขียวเข้มเป็นมันขนาดกว้าง 4-6 ซม. ยาว 7-9 ซม.
ดอก ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบหรือปลายยอดช่อละมากกว่า 10 ดอกกลิ่นหอมเหมือนข้าวสุกใหม่ๆ ดอกสีขาว รูปถ้วย โคนกลีบเชื่อมติดกันปลายแยกเป็นเป็นจีบ 5 แฉก ปลายกลีบแหลม กลีบบอบบางและมักบิดม้วนที่บริเวณปลายกลีบดอกมีขนาดเล็ก 1-1.5 ซม. เกสรเพศผู้จำนวน 5 อัน ติดกันคล้ายลูกศรบริเวณกลางดอก เกสรเพศเมียอยู่ภายในเหนือฐานรองดอก
ฝัก/ผล เมื่อแรกรูปดอกบัวตูมแล้วแบ่งเป็นสองพู โคนผลติดกันรูปร่างคล้ายเขาวัว ปลายผลเรียวแหลม เนื้อผลนุ่ม เมื่อผลแก่แตกออกตามแนวผลที่ผลแต่ละซีกแยกออกจากกัน
เมล็ด ใย เป็นระยาง

ไม้ประดับ เทียนหยด





เทียนหยด



ต้นไม้ประดับแบบพุ่มใช้ปลูกตกแต่งกิ่งทำรั้ว หรือประดับสวนก็สวย ใบสีเขียว ถึงเขียวอ่อน มีดอกเป็นช่อสีม่วงฟ้าสวย และผลสีส้มเหลืองสวยเช่นกันแต่มีพิษห้ามกิน ปลูกง่ายเทียนหยด (ชื่อวิทยาศาสตร์: Duranta repens L.; Duranta erecta L.; ชื่อสามัญ: Sky flower; Golden dew drop; Pigeon berry; Duranta; ชื่อวงศ์: VERBENACEAE) มีชื่อพื้นเมืองหลายชื่อ ได้แก่ เครือ (แพร่) ; พวงม่วง; ฟองสมุทร; เทียนไข (กรุงเทพฯ) ; สาวบ่อลด (เชียงใหม่)เป็นไม้พุ่มใบเป็นใบเดี่ยวรูปมนรีเรียว สอบไปทางปลาย ขอบใบเป็นหยักห่างๆออกดอกเป็นช่อห้อยตามปลายยอด ดอกมีสีม่วงมีกลีบดอก 5 กลีบ สามารถติดผลเป็นเม็ดกลมขนาดเล็กสีเหลืองคล้ายหยดเทียน ใช้ในการปลูกประดับทั่วไป


เทียนหยดเป็นพืชที่มีพิษ โดย ผลสีส้มของเทียนหยด เป็นสารประกอบโปรตีนที่มีพิษ ไม่ควรรับประทาน หากรับประทานเข้าไปแล้วเคี้ยว อาจจะทำให้เสียชีวิตได้ (แต่ถ้าหากรับประทานเข้าไปแล้วไม่เคี้ยว จะไม่ก่อให้เกิดอันตราย)

ไม้ประดับ กัลปพฤกษ์




กัลปพฤกษ์


เป็นไม้มงคลช่วยทำให้เกิดความประสบผลสำเร็จในชีวิต ลักษณะเป็นผลยืนต้นสูงประมาณ 10 -15 เมตรพุ่มใหญ่ขยายเป็นวงกว้าง ผลัดใบ ดอกสีชมพูระหว่างทิ้งใบออกดอกเป็นช่อทั่วกิ่งก้านเป็นสีชมพูขาวดก สวยมาก นิยมปลูกประดับบ้าน ประดับสวน ลำต้นจะมีหนามตามลำต้นกัลปพฤกษ์เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง ความสูงประมาณ 10-15 เมตร เปลือกนอกสีเทาลำต้นมีรอยเป็นเส้นเล็กน้อยแตกกิ่งก้านพุ่งสู่ด้านบนไม่ค่อยเป็นระเบียบ ใบเป็นแผงมีใบย่อยประมาณ 5-6 คู่ออกเรียงตรงกันตามก้านใบเป็นคู่ๆใบบางเรียบปลายใบแหลม ขนาดของใบกว้างประมาณ 2-4 เซนติเมตร ใบยาวประมาณ 4-7 เซนติเมตร


ดอกออกเป็นช่อตามกิ่งก้านมีกลิ่นหอมมีสีชมพูแกมขาวดอกบานจะมีความกว้างประมาณ23เซนติเมตรมีกลีบดอก5กลีบตรงกลางดอกจะมีเกสรตัวผู้สีเหลืองผลเป็นฝักกลม ยาว มีสีดำ เมื่อแก่เนื้อในฝักมีสีขาวกั้นเป็นชั้นๆ แต่ละชั้นจะมีเมล็ดเรียงอยู่ภายใน ฝักหนึ่งยาวประมาณ 15-30 เซนติเมตร มีลักษณะใบ เป็นพุ่มใบแบนกว้าง

ไม้ประดับ ชงโค




ชงโค


ชงโคไม้พุ่มให้ร่มเงา ใบคล้ายผีเสื้อ หรือรูปหัวใจเป็นไม้ที่ชอบแดด ควรปลูกในที่ได้รับแสงแดดทั้งวัน ไม้พุ่มหรือไม้ต้นผลัดใบขนาดกลาง สูงประมาณ 15 เมตร ดอกสวยงามคงทนมีหลายสี สีชมพู สีบานเย็น หรือม่วงแดง และสีขาว มีกลิ่นหอม ออกดอกตลอดทั้งปี เป็นไม้มงคลเมื่อปลุกจะทำให้ผู้อาศัย พบกับความดีงามและอดทนไม้พุ่มหรือไม้ต้นผลัดใบขนาดกลาง สูงประมาณ 15 เมตร เรือนยอดแผ่กว้างรูปทรงไม่แน่นอน ใบเดี่ยว เรียงสลับ เป็นรูปไข่แยกเป็น 2 แฉกลึก คล้ายใบติดกันหรือใบแฝด มีขนาดประมาณ 20 ซม. ดอกสีชมพูอมม่วง, สีม่วงสดคล้ายกล้วยไม้ และสีขาว มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ตลอดวัน ดอกบานเต็มที่ขนาด 6-8 ซม. ช่อดอกออกตามซอกใบและปลายกิ่ง มีจำนวนดอกน้อย เกสรตัวผู้ 3 อัน ขนาดไม่เท่ากัน ออกดอกเกือบตลอดปี ออกดอกมากในฤดูหนาว การขยายพันธุ์ใช้การตอนกิ่ง ปักชำและเพาะเมล็ด

ไม้ประดับ พุดน้ำบุศย์



                                                                   
                                                                         

พุดน้ำบุศย์


ไม้ดอกไม้ประดับที่สวยงามนิยมปลูกในกระถางเป็นพุ่มเตี้ย สูง 2-3 เมตร ซึ่งดอกสีขาวนวนสวยงามมากและจะค่อยเปลี่ยนเป็นสีเหลือง มีกลิ่นหอมมาก ส่งกลิ่นหอมไกล 2-3 เมตรออกดอกตลอดทั้งปี
ลักษณะ: เป็นไม้พุ่มต้นเล็กหรือพุ่มเตี้ยสูงประมาณ 2 - 3 เมตร แตกกิ่งต่ำ ตามข้อของลำต้น ลำต้นแก่สีน้ำตาล กิ่งอ่อนเป็นสีเขียว
ใบ: ลักษณะใบสวย งามเพราะใบมัน หน้าใบสีเขียวเข็ม หลังใบสีเขียวอ่อน เส้นกลางใบสีเทา เป็นลายเห็นเด่นชัดสวยงาม เรียงใบ เป็นคู่ตรงข้ามกัน ใบรูปรี กว้าง 5 เชนติเมตร ยาว 11 เซนติเมตร
ดอก: ดอกเดี่ยวบริเวณซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกสีเหลือง โคนกลีบดอกเชื่อมกันเป็นหลอดสีเหลือง ความยาวของกลีบ ของกลีบดอก 2 เซนติเมตร มี 7-8 กลีบ คลายรูปช้อน ชูดอกอยู่บนก้าน
การดูแล: เติบโตได้ดีในดินร่วน ระบายน้ำได้ดี แสงแดดจัด ชอบความชื้นแต่ถ้าไม่สามารถหาแดดเต็มวัน ให้ได้ แดดครึ่งวัน แดดช่วงเช้าหรือเย็นก็ได้ พุดน้ำบุษย์ปลูกได้ 2รูปแบบ คือ ปลูกลงดินกลางแจ้งยกแปลงสูง หรือปลูกลงกระถางขนาดใหญ่ตั้งไว้ ในที่มีแสงแดดส่องถึง หลังปลูกบำรุงดินด้วยปุ๋ยมูลสัตว์ประเภทขี้วัวขี้ควายแห้งโรยกลบฝังดินรอบโคน ต้นหรือรอบขอบกระถางปลูก 15 วันครั้ง รดน้ำให้พอชุ่มทั้งเช้าและเย็น

ไม้ประดับ บานเย็น


 

บานเย็น


เป็นไม้ประดับล้มลุกอายุหลายปี สูง เมตรกว่าๆที่คนนิยมปลูกมากเพราะมีหลากสีสัน มีหลายสีในต้นเดียว เช่นสีบานเย็น สีเหลือง สีขาว ชมพูและสีจะเปลี่ยนเมื่ออายุมากขึ้น และยังมีกลิ่นหอม เหตุที่ชื่อบานเย็นเพราะดอกจะบานในช่วงบ่ายๆเย็นๆ จะชอบแดดจัด ดอกบานทั่วทั้งปีบานเย็นถูกนำออกมาจากเขตมรสุมของทวีปอเมริกาใต้ แล้วนำไปปลูกอย่างแพร่หลายในเขตอบอุ่นและเขตร้อนอื่นๆ จนกลายเป็นพืชประจำถิ่น ในพื้นที่เขตอบอุ่นที่ค่อนข้างเย็น ต้นบานเย็นจะตายเมื่ออากาศเย็นจนเริ่มมีน้ำแข็ง แต่จะงอกกลับขึ้นใหม่ในฤดูใบไม้ผลิถัดไปจากเหง้าที่ฝังอยู่ใต้ดิน ต้นบานเย็นโตได้ดีที่สุดในแสงแดดจัด ความสูงต้นเมื่อโตเต็มที่ประมาณ 90 ซม. ผลมีเมล็ดเดี่ยว เมล็ดมีลักษณะกลม ผิวเปลือกเมล็ดเปลี่ยนสีจากเหลืองปนเขียวเป็นสีดำและย่นเมื่อเมล็ดแก่จัด การกระจายเมล็ดเกิดได้เองและอาจแพร่กระจายได้เร็วมากจนกลายเป็นวัชพืชถ้าขาดการควบคุมดูแลที่ดี ผู้ปลูกบางรายแนะนำว่าก่อนปลูกควรแช่เมล็ดก่อน แต่พบว่าไม่จำเป็น

ประวัติส่วนตัว

ประวัติส่วนตัว
ชื่อนายพันธภูมิ อาวุธเพชร ชื่่อเล่นเเต้ม เลขที่14
ม.4/7 โรงเรียนสุราษฏร์พิทยา อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
กีฬาที่ชอบเล่น แบดมินตัน
อาหารที่ชอบ ก๋วยเตี๋ยว
วิชาที่ชอบ สังคมศึกษา ประวัติศาสตร์ ภาษาอังกฤษ
สีที่ชอบ เหลือง
นิสัย ดี เงียบ
สถานที่ท่องเที่ยวที่ชอบ น้ำตกดาดฟ้า
สถานที่ที่อยากไป ขั้วโลกใต้
ทีมฟุตบอลที่ชอบ  เชลซี . GSEสมุทรสงคราม
คติ หน้าที่คือความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่